นักร้องสุดโปรด

                            

คติธรรมนำชีวิต

เพราะจิตหลุดพ้นแล้ว จิตจึงดำรงอยู่ ;

เพราะเป็นจิตที่ดำรงอยู่ จิตจึงยินดีร่าเริงด้วยดี ;

เพราะเป็นจิตที่ยินดีร่าเริงด้วยดี จิตจึงไม่หวาดสะดุ้ง ;
...
เมื่อไม่หวาดสะดุ้ง ย่อมปริพนิพพานเฉพาะตนนั่นเทียว.

(สูตรที่ ๔ อัตตทีปวรรค ขนฺธ.สํ.๑๗/๕๗/๙๓,
ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายที่เชตวัน. ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า ๖๕๕)

คติธรรมสอนใจ

จิตมีลักษณะเช่นใด
“จิตเดิมแท้ไม่ใช่จิตสะอาด บริสุทธิ์
จิตเดิมแท้เป็นจิต ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ
จิตดั้งเดิมเป็นธรรมชาติประภัสสร เป็นจิตที่สะอาด
แต่ไม่บริสุทธิ์เต็มที่ เหมือนผ้าสีขาว เป็นผ้าที่สะอาด
...แต่สามารถจะนำไปย้อมให้เป็นสีต่างๆ ได้
อันนี้เป็นจิตธรรมชาติประภัสสร จิตดั้งเดิม
ส่วนจิตที่ปรุงแต่งด้วยคุณธรรม
จะเป็นจิตที่บริสุทธิ์สะอาดตามขั้นตอน
บริสุทธิ์สะอาดขั้นศีล บริสุทธิ์สะอาดขั้นสมาธิ
บริสุทธิ์สะอาดขั้นปัญญา...
บริสุทธิ์ขั้นศีล หมายถึง ศีลบริสุทธิ์สะอาด ไม่ด่างพร้อย
บริสุทธิ์ขั้นสมาธิ คือ จิตสะอาด
หมายถึง จิตที่ปฏิบัติมุ่งตรงต่อมรรค ผล นิพพานจริงๆ
ไม่แอบอิงอามิสใดๆ ทั้งสิ้น
ปัญญาที่บริสุทธิ์สะอาด คือ ปัญญาสัมมาทิฏฐิ
ไม่ขัดแย้งกับความเห็นของพระพุทธเจ้า”
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา

ชั่วชีวิตคิดตรองมองดูเถิด
ตั้งแต่เกิดจนตายกลายเป็นผี
ย่อมประสบสิ่งทรามและความดี
ตามวิถีแห่งกรรมที่ทำมา
       อย่าครวญโอดโทษใครในยามทุกข์
จงปลอบปลุกจิตใจให้แกล้วกล้า
ใช่ชีวิตพรหมลิขิตขีดชะตา
ตนนั้นหนาที่ลิขิตชีวิตตน

คติสอนใจ

เวลาเป็นสิ่งเดียวในโลก ที่ทุกคนได้รับเสมอกัน ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบกันเลย แต่ใครจะใช้เวลาได้คุ้มค่ากว่ากัน นี่แหละเป็นเรื่องน่าคิด

Archive for the ‘พืชพลังงาน’ Category"มันสำปะหลัง"

มันสำปะหลัง

มันสำปะหลังจัดเป็นพืชหัวชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Manihot esculenta (L.) Crantz มีชื่อสามัญหลายชื่อตามภาษาต่าง ๆ ที่ได้ยินกันมากได้แก่ Cassava, Tapioca สำหรับในประเทศไทยก็มีการเรียกชื่อแตกต่างกันไปตามภูมิภาคต่างๆ เช่นกัน โดยในภาคเหนือเรียก ต้าวน้อย ภาคกลางเรียก มันสำโรง หรือสำปะหลัง และภาคใต้เรียก มันต้น หรือ มันไม้ เป็นต้น
แหล่งกำเนิดของมันสำปะหลัง เดิมอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาได้แพร่กระจายไปยังทวีปต่างๆ รวมถึงในประเทศไทยก็ได้มีการนำเข้ามาปลูกนานกว่า 200 ปีแล้ว โดยได้มีการปลูกในเชิงพาณิชย์มากว่า 70 ปี และเนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน สามารถเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ ที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ สามารถปลูกกระจายได้ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังสูงสุดในประเทศ

คาดการณ์การใช้มันสำปะหลังในอุตสาหกรรมอาหารและเอทานอล

ปริมาณหัวมันสด 20 ล้านตัน/ปี
(ที่มา: ดัดแปลงข้อมูลจากหน่วยปฏิบัติการเทคโนโลยีแปรรูปมันสำปะหลัง)
มัน สำปะหลังสามารถทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่างทั้งเพื่อการบริโภคภายในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น มันสำปะหลังเส้น (Cassava chips หรือ Shredded) มันสำปะหลังอัดเม็ด (Cassava pellets) และแป้งมันสำปะหลัง (Cassava flour) นอกจากนี้แล้วปัจจุบันยังเป็นที่นิยมในการนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทา นอลเพื่อผสมในน้ำมันแก๊สโซฮอล์อีกด้วย
กากน้ำตาล (MOLASSES)

กากน้ำตาล เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลจากอ้อย ที่ไม่สามารถจะสกัดเอาน้ำตาลออกมาได้อีกโดยวิธีปกติ มีลักษณะเหนียวข้น สีน้ำตาลแก่ ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยปัจจุบันทั้งในและต่างประเทศ ได้มีการนำกากน้ำตาลไปใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายๆ ประเภท ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตสุราและแอลกอฮอล์ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ปุ๋ยชีวภาพ ผลิตผงชูรส และน้ำส้มสายชู เป็นต้น นอกจากนี้ในหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยยังได้นำกากน้ำตาลไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลเพื่อ เป็นส่วนผสมในแก๊สโซฮอล์ ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นผู้ส่งออกกากน้ำตาลรายใหญ่ของโลก เนื่องจากมีการเพาะปลูกอ้อยและทำการผลิตน้ำตาลส่งออกสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากบราซิล และออสเตรเลีย

กากน้ำตาล เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลจากอ้อย ที่ไม่สามารถจะสกัดเอาน้ำตาลออกมาได้อีกโดยวิธีปกติ มีลักษณะเหนียวข้น สีน้ำตาลแก่ ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยปัจจุบันทั้งในและต่างประเทศ ได้มีการนำกากน้ำตาลไปใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายๆ ประเภท ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตสุราและแอลกอฮอล์ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ปุ๋ยชีวภาพ ผลิตผงชูรส และน้ำส้มสายชู เป็นต้น
นอกจากนี้ในหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยยังได้นำกากน้ำตาลไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลเพื่อ เป็นส่วนผสมในแก๊สโซฮอล์ ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นผู้ส่งออกกากน้ำตาลรายใหญ่ของโลก เนื่องจากมีการเพาะปลูกอ้อยและทำการผลิตน้ำตาลส่งออกสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากบราซิล และออสเตรเลีย

น้ำท่วมถนนเสียหาย1.4พันล้าน-รถไฟสายใต้ยังหยุดวิ่ง

น้ำยังท่วมถนนทางหลวง-ทางหลวงชนบทเพิ่มอีก 42 สายทาง คาดความเสียหายเบื้องต้นกว่า 1.4 พันล้านบาท ขณะที่รถไฟยังงดให้บริการรถไฟสายใต้
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า กรมฯได้สรุปความเสียหายเนื่องจากอุทกภัยระหว่างวันที่ 23-31 มี.ค. 2554 พบว่ามีถนนได้รับความเสียหายใน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพร จังหวัดตรัง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดปัตตานี จังหวัดพังงา จังหวัดพัทลุง จังหวัดยะลา จังหวัดระนอง จังหวัดสตูล จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดกระบี่ รวม 139 สายทาง เพิ่มขึ้นจากเดิม 29 สายทาง ไม่สามารถสัญจรได้ 58 สายทาง เพิ่มขึ้น 16 สายทาง และสามารถสัญจรผ่านได้ 81 สายทาง โดยประเมินความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1,100 ล้านบาท
นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า จากการสำรวจความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมภาคใต้ประจำวันที่ 31 มี.ค.2554 พบว่า ถนนของกรมทางหลวงได้รับความเสียหายรวม 75 สายทาง เพิ่มขึ้นจากเดิม 13 สายทาง ไม่สามารถสัญจรได้ 30 สายทาง เพิ่มขึ้นจากเดิม 9 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 45 สายทาง ประเมินความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 310 ล้านบาท
รถไฟสายใต้ยังงดให้บริการ
นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์   ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในภาคใต้ยังคงส่งผลกระทบกับการเดินรถไฟสายใต้ในวันที่ 31 มี.ค.2554 ซึ่งยังไม่สามารถเดินขบวนรถผ่านไปได้ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช 
สำหรับความเสียหายของรางรถไฟมีดังนี้ 1.ช่วงสถานีไชยา-ท่าฉาง ปัจจุบันน้ำลดแล้ว สภาพทางเสียหายมาก ยังไม่มีการเปิดทาง 2.ช่วงสถานีท่าฉาง-คลองไทร ระดับน้ำต่ำกว่าสันราง มีทางขาดประมาณ 150 เมตร คอสะพานชำรุด 3.ย่านสถานีหลักช้าง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ระดับน้ำสูงเหนือสันราง 10 เมตร บริเวณประแจเบอร์ 1 น้ำพัดพาหินสูญหายประมาณ 5 เมตร 4.สายคีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างที่หยุดรถเขาหลุง-บ้านยาง น้ำท่วมเหนือสันราง 40 ซม.
5.สายชุมทางทุ่งสง-กันตัง ระหว่างสถานีที่วัง-ห้วยยอด มีปริมาณน้ำท่วมขยายวงกว้างในหลายจุด อาทิ บริเวณย่านสถานีที่วังระดับน้ำสูงเหนือสันรางกว่า 20-30 ซม. ทางเป็นหลุมเป็นแอ่งหลายจุด และบางช่วงหินโรยทางถูกพัดสูญหายหลายจุดเช่นกัน ระยะทางกว่า 35 เมตร และ 80 เมตร 6.สายชุมทางเขาชุมทอง-นครศรีธรรมราช ระหว่างสถานีโคกคราม-นครศรีธรรมราช น้ำท่วมเหนือสันรางประมาณ 1.50 เมตร เป็นระยะทางกว่า 2,500 เมตร
การบินไทยจัดเที่ยวบินเพิ่มที่สมุย
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์   กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)   กล่าวว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่สนามบินสมุยวันที่ 31 มี.ค.2554 มีทัศนวิสัยที่ปลอดภัยต่อการทำการบิน บริษัทจึงทำการบินตามปกติ พร้อมจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ตกค้างที่ท่าอากาศยานสมุย ในเส้นทางไป-กลับ   กรุงเทพฯ – สมุย   จำนวน   4   เที่ยวบิน   ดังนี้ เส้นทาง กรุงเทพฯ – สมุย เที่ยวบินปกติที่ ทีจี 281    ออกจาก กรุงเทพฯ เวลา 07.45 น. ถึงสมุย เวลา   08.50 น. เที่ยวบินพิเศษที่ ทีจี 2811 ออกจาก กรุงเทพฯ เวลา 10.00 น. ถึงสมุย เวลา   11.05 น. เที่ยวบินพิเศษที่ ทีจี 2871 ออกจาก กรุงเทพฯ เวลา 14.00 น. ถึงสมุย เวลา   15.05 น. และเที่ยวบินปกติที่ ทีจี 287   ออกจาก กรุงเทพฯ เวลา 16.00 น. ถึงสมุย เวลา   17.05 น.
เส้นทาง สมุย - กรุงเทพฯ เที่ยวบินปกติที่ ทีจี 282   ออกจากสมุย เวลา 09.30 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา   10.35 น. เที่ยวบินพิเศษที่ ทีจี 2821 ออกจากสมุย เวลา 11.45 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา   12.50 น. เที่ยวบินพิเศษที่ ทีจี 2881 ออกจากสมุย เวลา 15.45 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา   16.50 น. และเที่ยวบินปกติที่   ทีจี 288   ออกจากสมุย เวลา 17.45 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา   18.50 น.
ขสมก.จัดรถรับส่งผู้ประสบภัย
นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าว เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2554 กระทรวงคมนาคมร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 10 คัน ไปรับผู้ประสบภัยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 400 คน จากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี และนำมาส่งที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ

"ผักเซียงดา" ยอด-ดอกกินได้

 "ผักเซียงดา" พืชพื้นเมืองของทางเหนือบ้านเรา โดยเฉพาะ จ.เชียงราย มีสรรพคุณ เช่น ใบมาทำชาชงดื่มช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน ป้องกันเนื้องอกและมะเร็งแล้ว ยอดใบอ่อนและดอกซึ่งมีรสขมยังนำมาแกงกับปลาแห้งให้รสอร่อยอีกด้วย
 เป็นไม้เถาเลื้อย วงศ์ Asclepiaceae เถาสีเขียว ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว ลำต้นสีเขียว เลื้อยพันต้นไม้อื่นหรือหลักปักได้ไกลราว 2 เมตร
 ใบ เป็นใบเดี่ยวทรงกลมรี ปลายแหลม ผิวใบเรียบ ท้องใบสีเขียวแก่ ออกจากข้อเรียงเป็นคู่ตรงข้ามกัน ใบกว้าง 9-11 เซนติเมตร ใบยาว 14.5-18.5 เซนติเมตร
 ดอก ออกเป็นกระจุกแน่นสีขาวอมเขียว ดอกย่อยขนาดเล็ก
 ผล เป็นฝักคู่ ฝักอ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีตาล และจะแห้งแตก ข้างในมีเมล็ดเล็กๆ จำนวนมาก
 ขยายพันธุ์ ปักชำเถาแก่ แยกต้นอ่อนจากราก ชอบดินร่วน ความชื้นและแสงแดดเต็มวัน
"นายสวีสอง"